2554-09-11

กรุงไทยเดินหน้าปล่อยเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม

เนื้อข่าว
ธนาคารกรุงไทย เตรียมสินเชื่อให้ผู้ประกอบการสร้างหรือปรับปรุงระบบกำจัดของเสียและมลพิษ ในวงเงิน 4,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุดเพียง 2% ต่อปี นานถึง 7 ปี ไม่จำกัดวงเงินกู้ โดย 2 ปีแรกผู้กู้ชำระเพียงดอกเบี้ย เผยเป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ให้กู้ในโครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้รับการแต่งตั้งจากกองทุนสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนเงินกู้นั้น ธนาคารได้เตรียมวงเงินกู้ จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ภายใต้โครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม
ธนาคารจะให้กู้ทั้งกับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ประกอบกิจการอันก่อให้เกิดมลพิษ ในภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจโรงแรม หรือธุรกิจอื่นๆ เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงระบบ หรืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับกำจัด บำบัด ตลอดจนควบคุมของเสีย น้ำเสีย และมลพิษให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ โรงงานน้ำตาล โรงงานแป้งมัน โรงงานฟอกย้อม และขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการให้ความสนใจอีกจำนวนมาก
นายเวทย์ นุชเจริญ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำมาก เพียง 2% ต่อปี ในกรณีที่ใช้หนังสือค้ำประกันหรือเงินฝากค้ำประกัน และคิดในอัตรา 3% ต่อปี ในกรณีที่ใช้หลักทรัพย์อื่นค้ำประกัน ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลานานถึง 7 ปี โดยใน 2 ปีแรก ผู้กู้ชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น โดยธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ใช้ในการบำบัด ขจัด และรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้กู้เพียงใช้รายละเอียดโครงการ แผนการดำเนินงาน งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี และเอกสารทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือน เป็นหลักฐานในการยื่นกู้
นอกจากนี้ ธนาคารยังมี สินเชื่อกรุงไทยประหยัดพลังงาน เพื่อใช้ในการลงทุนหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการที่ก่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด โดยในปีที่ 1 - 2 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR-1.0% ต่อปี และปีที่ 3-10 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี และยังมี โครงการวายุภักษ์อนุรักษ์พลังงาน ให้กู้เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการอนุรักษ์พลังงาน หรือพลังงานทดแทน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นาน 7 ปี
                                                                                                                                 อ้างอิงมาจาก
6 กันยายน 2554
                   
วิเคราะห์ข่าว
จากการที่ธนาคารกรุงไทยได้รับการแต่งตั้งจากกองทุนสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนเงินกู้ โดยธนาคารได้เตรียมวงเงินกู้ จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ภายใต้โครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม และธนาคารยังมี สินเชื่อกรุงไทยประหยัดพลังงาน เพื่อใช้ในการลงทุนหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการที่ก่อให้เกิดการอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด โดยในปีที่ 1 - 2 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR-1.0% ต่อปี และปีที่ 3-10 คิดดอกเบี้ยในอัตรา MLR ต่อปี และยังมี โครงการวายุภักษ์อนุรักษ์พลังงาน ให้กู้เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ปรับปรุงโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการอนุรักษ์พลังงาน หรือพลังงานทดแทน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นาน 7 ปี

ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออม อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 3.90% ต่อปี

เนื้อข่าว
ธนาคารกรุงไทยออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออม อัตราดอกเบี้ยพิเศษให้ลูกค้าเลือกลงทุน แบ่งเป็น เงินฝากประจำพิเศษ 10 เดือน เงินฝากประจำพิเศษ Step Up 10 เดือน และตั๋วแลกเงิน KTB – B/E พิเศษ อายุ 10 เดือน รับฝาก 1-30 กันยายนนี้
นายชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในภาวะแนวโน้มที่มีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะชะลอตัวหรือปรับลดลง ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการใช้มาตรการดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการในการออมที่หลากหลายและเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้า ธนาคารจึงได้ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออมระยะสั้นให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ได้แก่ เงินฝากประจำพิเศษ 10 เดือน รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 50,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตรา 3.70% ต่อปี
เงินฝากประจำพิเศษ Step Up 10 เดือน รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 50,000 บาทเช่นเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือนตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนสุดท้าย โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 9.99% ต่อปี ในเดือนที่ 10 ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรก ที่เสนออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน นอกจากนี้ยังให้เงื่อนไขพิเศษ ถอนเมื่อไหร่ ได้ดอกเบี้ยตามประกาศ ไม่มีเบี้ยปรับ โดยอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่ 1 จ่าย 1.25% ต่อปี เดือนที่ 2 จ่าย 1.50% ต่อปี เดือนที่ 3 จ่าย 2.00% ต่อปี เดือนที่ 4 จ่าย 2.50% ต่อปี เดือนที่ 5 จ่าย 3.00% ต่อปี เดือนที่ 6 จ่าย 3.50% ต่อปี เดือนที่ 7 จ่าย 4.00% ต่อปี เดือนที่ 8 จ่าย 4.50% ต่อปี เดือนที่ 9 จ่าย 4.75% ต่อปี และเดือนที่ 10 จ่าย 9.99% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเท่ากับ 3.699% ต่อปี
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกตั๋วแลกเงิน KTB – B/E พิเศษ อายุ 10 เดือน ยอดซื้อขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.90% ต่อปี ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นเมื่อครบกำหนด โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันตามที่ได้แจ้งไว้กับธนาคาร ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเงินฝากและซื้อตั๋วแลกเงินได้ที่ทุกสาขากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-30 กันยายนนี้

อ้างอิงมาจาก
1 กันยายน 2554
                       
วิเคราะห์ข่าว
ในภาวะแนวโน้มที่มีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะชะลอตัวหรือปรับลดลง ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการใช้มาตรการดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการในการออมที่หลากหลายและเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้า ธนาคารจึงได้ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออมระยะสั้นให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ได้แก่ เงินฝากประจำพิเศษ 10 เดือน รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 50,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตรา 3.70% ต่อปี

เปิด KTB Precious corner แห่งแรก ที่สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว

เนื้อข่าว
นางนงนุช เทียนไพฑูรย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ดร.เยาวลักษณ์ พูลทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานยุทธศาสตร์ธนาคาร และนายสุวัฒน์ เนตรสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่  สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย มอบ Consolidated Statement Report ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาพรวมสินทรัพย์ที่ลงทุนกับธนาคาร ให้กับนายนิพนธ์ เกียรติกมลวงศ์ ลูกค้า KTB Precious เจ้าของกิจการ ไข่มุก เกาะช้าง รีสอร์ท และ Enjoy รีสอร์ท ที่มาร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสที่ธนาคารเปิดKTB Precious corner แห่งแรก ที่สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2554 เพื่อให้บริการกรุงไทยธนบดี ที่ปรึกษาการลงทุนครบวงจร
นายนิพนธ์ เกียรติกมลวงศ์ กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อธนาคารว่ารู้สึกประทับใจธนาคารมาก เจ้าหน้าที่สาขาให้บริการและดูแลลูกค้าดีมาก ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าธนาคารเป็นรัฐวิสาหกิจ บริการคงไม่ดี แต่เมื่อได้ใช้บริการด้วยตัวเอง รู้สึกพึงพอใจมาก และมักนึกถึงธนาคารเป็นอันดับแรกเสมอ การเปิด KTB Precious corner จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สนใจด้านการลงทุน โดยบริการออก Consolidated Statement Report จะช่วยให้ลูกค้าทราบสถานะการลงทุนของตัวเอง ซึ่งเป็นประโยชน์มาก

อ้างอิงมาจาก
31 สิงหาคม 2554
                                    
วิเคราะห์ข่าว
การเปิด KTB Precious corner จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สนใจด้านการลงทุน โดยบริการออก Consolidated Statement Report จะช่วยให้ลูกค้าทราบสถานะการลงทุนของตัวเอง โดยจะเปิดแห่งแรก ที่สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2554 เพื่อให้บริการกรุงไทยธนบดี ที่ปรึกษาการลงทุนครบวงจร

2554-09-10

รับชำระค่าภาระและบริการขนส่งทางน้ำผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นธนาคารแรก

เนื้อข่าว
ธนาคารกรุงไทยจับมือการท่าเรือแห่งประเทศไทย อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก โดยเพิ่มช่องทางรับชำระค่าภาระและค่าบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเป็นธนาคารแห่งแรก สามารถใช้บริการได้ไม่มีวันหยุด  เริ่มให้บริการ 1 กันยายนนนี้
นางศรีประภา พริ้งพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารได้พัฒนาช่องทางการให้บริการทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและประชาชน ล่าสุดธนาคารได้ร่วมมือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ขยายช่องทางในการรับชำระค่าภาระและบริการ ในรูปแบบการหักบัญชีอัตโนมัติผ่านระบบอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ e-Port  ของ กทท. โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 กันยายนนี้
ธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารแห่งแรกที่ให้บริการดังกล่าว ซึ่งเป็นการก้าวสู่โลกธุรกิจขนส่งทางน้ำยุคใหม่ โดยจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้นำเข้าและส่งออกที่ไม่ต้องไปทำธุรกรรมที่ กทท. สามารถชำระค่าระวางและบริการได้ถึงเวลา 22.00 น. ช่วยให้การชำระเงินตรงตามกำหนดเวลา สามารถเลือกรับผลการชำระค่าสินค้าและบริการหลังการทำรายการได้ทั้งทาง e-mail และ SMS  นอกจากนี้ ระบบยังมีความปลอดภัยในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีระดับสากล ที่สำคัญช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย
นางศรีประภา พริ้งพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารได้พัฒนาขั้นตอนการใช้บริการให้สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ www.port.co.th เลือกประเภทบริการที่ต้องการชำระ และเลือกชำระผ่านธนาคารกรุงไทย  เมื่อทำรายการเสร็จ ระบบจะออกใบรับเงินชั่วคราว เพื่อเป็นหลักฐานการชำระเงิน ผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการที่ได้ทุกสาขาของธนาคารทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง  อย่างไรก็ตาม  ธนาคารยังได้ร่วมกับ กทท.เชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมงานสัมมนา เพื่อแนะนำการใช้เว็บไซต์ระบบการชำระค่าภาระและบริการ พร้อมเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้ทดลองใช้อีกด้วย

อ้างอิงมาจาก
31 สิงหาคม 2554
                     
วิเคราะห์ข่าว
จากที่ธนาคารได้พัฒนาช่องทางการให้บริการทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและประชาชน ล่าสุดธนาคารได้ขยายช่องทางในการรับชำระค่าภาระและบริการ ในรูปแบบการหักบัญชีอัตโนมัติผ่านระบบอินเทอร์เน็ต สำหรับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ E-Port ของ กทท. โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 กันยายนนี้ ธนาคารกรุงไทยจึงเป็นธนาคารแห่งแรกที่ให้บริการดังกล่าว ซึ่งเป็นการก้าวสู่โลกธุรกิจขนส่งทางน้ำยุคใหม่ โดยจะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้นำเข้าและส่งออกที่ไม่ต้องไปทำธุรกรรมที่ กทท. และนอกจากนี้ระบบยังมีความปลอดภัยในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีระดับสากล ที่สำคัญช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย ช่วยให้การชำระเงินตรงตามกำหนดเวลา

จำหน่ายพันธบัตรเพื่อรายย่อยพิเศษผ่านเอทีเอ็มกรุงไทย

เนื้อข่าว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย   นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล  ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ  ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ  และ นายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมพิธีลงนามจำหน่ายพันธบัตรเพื่อรายย่อยพิเศษ ผ่านเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย   ในงาน ก้าวสู่สังคมแห่งการออม  พันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ @ ATM ซึ่งเป็นก้าวแรกของการพัฒนาพันธบัตรรัฐบาลที่นำไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชีวิตที่สะดวกสบาย ณ  บริเวณ Banking Hall  ธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554
กระทรวงการคลังได้พัฒนาพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ เพื่อเป็นแหล่งออมเงินที่มีคุณภาพ พร้อมเพิ่มช่องทางการจำหน่ายพันธบัตรผ่านเครื่องเอทีเอ็มเป็นครั้งแรกในประเทศ เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนในการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น  โดยธนาคารกรุงไทยเป็นเพียงธนาคารแห่งเดียวที่ได้รับแต่งตั้งให้จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ อายุ  3 ปี วงเงินซื้อ 1,000 - 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.75  ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 งวด โดยจำหน่ายผ่านเครื่องเอทีเอ็มกว่า  7,300 เครื่อง รวมทั้งสาขาทั่วประเทศอีกกว่า 1,000 แห่ง ในระหว่างวันที่ 12 – 30 กันยายน นี้
สำหรับลูกค้าธนาคารที่มีบัตรเอทีเอ็ม สามารถลงทะเบียนซื้อพันธบัตรล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 9 กันยายน 2554 ที่เคาน์เตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ  ส่วนประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถลงทะเบียนซื้อพันธบัตรและเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร  ซึ่งจะได้รับบัญชีบัตร ATM และสมุดพันธบัตร  (Bond Book)  โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

อ้างอิงมาจาก
29 สิงหาคม 2554
                     
วิเคราะห์ข่าว
กระทรวงการคลังได้พัฒนาพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ เพื่อเป็นแหล่งออมเงินที่มีคุณภาพ พร้อมเพิ่มช่องทางการจำหน่ายพันธบัตรผ่านเครื่องเอทีเอ็มเป็นครั้งแรกในประเทศ เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนในการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น  โดยธนาคารกรุงไทยเป็นเพียงธนาคารแห่งเดียวที่ได้รับแต่งตั้งให้จำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษ อายุ  3 ปี วงเงินซื้อ 1,000 - 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.75  ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 งวด โดยจำหน่ายผ่านเครื่องเอทีเอ็มกว่า  7,300 เครื่อง รวมทั้งสาขาทั่วประเทศอีกกว่า 1,000 แห่ง ในระหว่างวันที่ 12 – 30 กันยายน นี้

ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมเติมเงินบัตรทางด่วน

เนื้อข่าว
ธนาคารกรุงไทย ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมเติมเงินบัตร Easy Pass ผ่านเอทีเอ็มและอินเทอร์เน็ต   ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เตรียมขยายช่องทางให้บริการผ่านเคาน์เตอร์สาขาและช่องทางอื่นๆ นางศรีประภา พริ้งพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้ร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้บริการเติมเงินบัตร Easy Pass ผ่านเอทีเอ็มและอินเทอร์เน็ตเป็นธนาคารแรก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินในอัตรา 5 บาท ต่อรายการ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการสมนาคุณและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงได้ขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินต่อไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยผู้ใช้บัตร Easy Pass สามารถเติมเงินสำรองในบัตรตั้งแต่ 500-5,000 บาท ผ่านเครื่องเอทีเอ็มกรุงไทยที่มีกว่า 8,100 เครื่องทั่วประเทศ รวมทั้งระบบอินเทอร์เน็ต ได้แก่ บริการ KTB online และบริการ KTB Online @Mobile ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังคงได้รับสิทธิพิเศษมูลค่าเพิ่ม 25 บาท เมื่อเติมเงินทุก 500 บาท เช่นเดียวกับการเติมเงินที่หน้าด่านทางด่วน
นางศรีประภา พริ้งพงษ์ กล่าวในตอนท้ายว่า  ธนาคารเตรียมขยายช่องทางให้บริการเติมเงินผ่านเคาน์เตอร์สาขา  เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ The Convenience Bank หรือธนาคารแสนสะดวก
อ้างอิงมาจาก
25 สิงหาคม 2554
                            
วิเคราะห์ข่าว
จากการที่ธนาคารกรุงไทยได้ร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้บริการเติมเงินบัตร Easy Pass ผ่านเอทีเอ็มและอินเทอร์เน็ตเป็นธนาคารแรก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินในอัตรา 5 บาท ต่อรายการ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสมนาคุณและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ธนาคารจึงได้ขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการเติมเงินต่อไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และธนาคารยังเตรียมขยายช่องทางให้บริการเติมเงินผ่านเคาน์เตอร์สาขา  เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ ธนาคารแสนสะดวก

ร่วมงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 5

เนื้อข่าว
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 5 (Money Expo Korat 2011)  พร้อมเยี่ยมชมบูธของธนาคารกรุงไทย โดยมีนายพีระวัฒน์ ดวงแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย นางอุมาพร มังคลัษเฐียร ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายบริหารการขายผ่านช่องทางพิเศษ นายประเสริฐ อังสุพันธุ์โกศล ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารสำนักงานเขตนครราชสีมา และพนักงาน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ธนาคารได้ออกแบบบูธภายใต้แนวคิด ธนาคารในสวน หรือ KTB Convenience Park เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างครบวงจร ตอกย้ำการเป็นธนาคารแสนสะดวก  ณ ห้อง MCC Hall ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2554
อ้างอิงมาจาก
25 สิงหาคม 2554