2554-06-28

บลจ.กรุงไทยกองทุนตราสารหนี้ใน-ต่างประเทศ

เนื้อหา
               
บลจ.กรุงไทยเปิด 2 ทางเลือกลงทุนตราสารหนี้ ทั้งใน-ตปท. ชูผลตอบแทน 3.10% ต่อปี ระหว่าง 15-21 มิ.ย.นี้
      นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า    บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 8 (KTSUPB8)  ในวันที่ 15 - 21 มิถุนายน  2554   อายุโครงการ  6 เดือน  โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตราสารการเงินธนาคารต่างประเทศทั้งสกุล CNY และสกุล USD ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A - ขึ้นไป เช่น  Bank of China (A1/P1/Stable โดย Moody)  Wing Lung Bank (A2/P1/Stable โดย Moody)  Industrial and Commercial Bank of China (A1/P1/Stable โดย Moody) ประมาณ 70 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศ  อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB ขึ้นไป    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10%   ต่อปี
             กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น   และต้องการผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งตราสารเป้าหมายจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน  ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน   โดยจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน  และสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
                นอกจากนี้  บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท  อินเวส 3เดือน 3  ( KTSIV3M3 )  เสนอขายในวันที่ 13-17 มิถุนายน 2554   อายูโครงการ 3 เดือน   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน    เงินฝาก  และตราสารหนี้สถาบันการเงิน     กองทุนจะเน้นลงทุนใน พันธบัตรภาครัฐในประเทศ  10%   เงินฝากธนาคารทิสโก้  และไอซีบีซี  36 %     หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 24%       และ  ตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+  ขึ้นไป  30%   ของมูล่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70%  ต่อปี
                                                                                                                                 อ้างอิงมาจาก
                                                                                                                                           กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  
                                                                                               24/06/2554


วิเคราะห์ข่าว
                อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศมีความผันผวน โดยเป็นผลจากการอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัว โดยเฉพาะค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจึงส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นแกว่งตัวตาม  ในขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากกระแสการโอนเงินออกของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมาปรากฎแรงขายทั้งในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้  โดยสวนทางกับกระแสเงินลงทุนของกองทุนเกาหลีใต้ที่ทยอยครบกำหนดไถ่ถอน  ดังนั้น จึงคาดการณ์  ว่าค่าเงินบาทจะมีความผันผวนในช่วงนี้   ทั้งนี้ การแกว่งตัวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และค่าเงินบาทมีอิทธิพลค่อนข้างสูงต่อค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยม และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น