KTBพร้อมลุยโครงการรัฐ ธสน.6เดือนกำไรโต106%

เนื้อหา

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารมีสภาพคล่องสูงเพียงพอที่จะสนับสนุนการทำนโยบายภาครัฐ โดยไม่จำเป็นต้องระดมเงินฝากเพิ่มเติม เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (LtoD) สูงถึง 91%    นอกจากนี้ ยังมั่นใจว่านโยบายของรัฐจะไม่สร้างปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มให้กับธนาคาร เพราะมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการพิจารณาความเสี่ยงด้านสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาธนาคารพยามที่จะปรับสมดุลโครงการสร้างสินเชื่อโดยลดสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐจาก 20% เหลือเพียง 18% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากสินเชื่อรัฐมีการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยสูงทำให้มีผลกำไรน้อย  “ปกติธนาคารจะทำแผนธุรกิจของแต่ละปีในเดือน ต.ค.-พ.ย. ซึ่งของปี 2555 จะมีการประเมินนโยบายของภาครัฐอีกครั้ง” นายอภิศักดิ์ระบุ   ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าธนาคารจะประกาศมาตรการช่วยเลือกลูกค้าสินเชื่อทุกประเภทของธนาคาร โดยเฉพาะลูกค้าเอสเอ็มอีที่ถูกกระทบจากปัญหาอุกภัยในหลายจังหวัด

นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ ธสน.ในครึ่งปีแรก 2554 เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด โดยมีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% มียอดคงค้างเงินให้สินเชื่อสิ้นเดือน มิ.ย.2554 เท่ากับ 61,189 ล้านบาท ขยายตัว 13.31% โดยส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวของสินเชื่อระยะยาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหนี้ NPL เท่ากับ 3,174 ล้านบาท คิดเป็น 5.15% ของยอดสินเชื่อรวม ดอกเบี้ยค้างรับ ลดลงจากสิ้นปี 2553 ที่มียอดอัตราส่วนเท่ากับ 6.22%

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองมากกว่า 600 ล้านบาท ตามที่ได้มีการทำข้อตกลงเป็น KPI กับบริษัท ทริส เรทติ้ง โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายมีสินเชื่อคงค้าง 65,000 ล้านบาท และทางบริษัทมีแผนการลงทุนวางระบบใหม่ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการทดแทนระบบเดิม

        อ้างอิงมาจาก

          http://www.thaipost.net

                วันที่ 5 สิงหาคม 2554

                          

วิเคราะห์ข่าว

                กรุงไทยฟุ้งสภาพคล่องล้น ไฟเขียวหนุนโครงการรัฐ เชื่อไม่เกิดหนี้เน่าเพิ่ม ธสน.ฟุ้งผลงานครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารมีสภาพคล่องสูงเพียงพอที่จะสนับสนุนการทำนโยบายภาครัฐ โดยไม่จำเป็นต้องระดมเงินฝากเพิ่มเติม เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (LtoD) สูงถึง 91% คาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองมากกว่า 600 ล้านบาท ตามที่ได้มีการทำข้อตกลงเป็น KPI กับบริษัท ทริส เรทติ้ง โดยทั้งปีตั้งเป้าหมายมีสินเชื่อคงค้าง 65,000 ล้านบาท และทางบริษัทมีแผนการลงทุนวางระบบใหม่ใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการทดแทนระบบเดิม